โครงการสัมมนาทางวิชาการความรู้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ

สมาคมนักบริหารพัสดุแห่งประเทศไทย

เรื่อง “ การจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง  และการกำหนดราคากลาง

งานก่อสร้าง ”

ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบออนไลน์ (Zoom)

วันจันทร์ที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๘ ถึงวันอังคารที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘

....................................................

หลักการและเหตุผล

                    การดำเนินการงานก่อสร้างของหน่วยงานของรัฐจะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยระเบียบฯ ข้อ ๒๑ วรรคสาม กำหนดว่า “ในการจ้างก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งจัดทําแบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือจะดําเนินการจ้าง ตามความในหมวด ๔ งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างก็ได้”  และวรรคสี่ ระบุว่า “องค์ประกอบ ระยะเวลาการพิจารณา และการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง และวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐกําหนดตามความจําเป็นและเหมาะสม” และหนังสือด่วนที่สุดที่ กค (กวจ) ๐๔๐๕.๔/ว ๑๕๙ ลงวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖ เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการจัดทำร่างรายละเอียดขอบเขตของงานทั้งโครงการ จัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างให้ถูกต้อง แบบจะต้องเป็นไปตามหลักวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม มีรายละเอียดครบถ้วน ได้มาตรฐาน และสามารถใช้งานได้จริง ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงขอบเขตของงานก่อสร้าง การออกแบบ การรับรองแบบรูปรายการงานก่อสร้าง การจัดทำราคากลางงานก่อสร้าง และการจัดทำราคากลางงานก่อสร้างและราคากลางงานก่อสร้างที่ถูกต้องเป็นเครื่องมือที่ช่วยกำหนดมาตรฐานของต้นทุนโครงการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการพิจารณาเปรียบเทียบราคาที่เสนอโดยผู้รับจ้าง และลดความเสี่ยงจากการกำหนดราคาที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการกำหนดราคากลางงานก่อสร้างเป็นขั้นตอนที่กำหนดให้ดำเนินการตามระเบียบ ประกาศของคณะกรรมการ หนังสือแจ้งเวียนต่าง ๆ ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด ซึ่งหากผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการกำหนดราคากลาง เจ้าหน้าที่พัสดุ หรือคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างก่อสร้าง ไม่มีความรู้ความเข้าใจ การจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง การกำหนดราคากลางตลอดจนการบริหารสัญญางานก่อสร้าง อาจปฏิบัติหน้าที่บกพร่องเป็นผลให้หน่วยงานของรัฐได้รับความเสียหายได้