โครงการสัมมนาทางวิชาการ

ความรู้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ

สมาคมนักบริหารพัสดุแห่งประเทศไทย

เรื่อง "การเตรียมความพร้อมในการจัดซื้อจัดจ้าง

โดยใช้งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน”

ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบออนไลน์ (ZOOM)

วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๖

หลักการและเหตุผล

                 การจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ  เพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุ ไม่ว่าจะเป็น สินค้า งานบริการ งานก่อสร้าง งานจ้างที่ปรึกษาและงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างรวมทั้งการดำเนินการอื่นๆตามที่กำหนดในกฎกระทรวงต่างๆไม่ว่าจะดำเนินการโดยวิธีซื้อ จ้าง เช่า  แลกเปลี่ยน หรือโดยนิติกรรมอื่นๆตามที่กฎกระทรวงล้วนต้องดำเนินการโดยใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ที่มีกระบวนการจัดทำและพิจารณาให้ความเห็นชอบ วงเงินงบประมาณ จำนวนที่จะนำไปใช้  ในการบริหารงานและดำเนินโครงการต่างๆที่มีวงเงินค่อนข้างสูงมาก หลายล้านล้านบาท เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของรัฐบาลนั้น เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่จัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง  มีหน้าที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุโดยใช้เงินงบประมาณให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดความคุ้มค่าต่อภารกิจของรัฐเกิดความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานของรัฐ   จึงมีความจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง  กฎหมายเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายและระเบียบวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง บรรลุผลสำเร็จตามแผนงานและตามเป้าหมายที่วางไว้ประกอบกับสาระสำคัญของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๖๑  มาตรา ๔๓ กำหนดให้การขยายระยะเวลาเบิกเงินจากคลังหน่วยรับงบประมาณกระทำได้   เฉพาะกรณีที่ได้มีการก่อหนี้ผูกพันไว้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ โดยจะไม่สามารถขอกันเงินรายการที่ยังไม่ก่อหนี้ผูกพันได้   อีกทั้งกำหนดให้ กรณีรายการที่ก่อหนี้ผูกพันแล้วสามารถกันเงินต่อไปได้เพียงหกเดือนเว้นแต่จะมีเหตุผลความจำเป็น จะต้องขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อขอขยายระยะเวลาออกไปอีกหกเดือนทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ  เนื่องจาก“หน่วยรับงบประมาณ”ซึ่งหมายถึงหน่วยงานของรัฐทั้งหลาย    จำเป็นต้องเร่งรัดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในปีงบประมาณ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗   ซึ่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการแต่อย่างใด  เพราะเหตุเกิดทางการเมืองการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่แล้วเสร็จเป็นผลให้การจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ อาจล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐยังทำได้ไม่เต็มที่  ส่งผลให้การปฏิบัติงานจัดซื้อจัดจ้างไม่เป็นไปตามแผนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐอาจต้องจัดทำโดยการใช้วงเงินงบประมาณของปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน  ซึ่งหน่วยงานจะได้รับการจัดสรรงบประมาณภายใต้กรอบวงเงินไม่เกิน ๑ ใน ๔ ของงบประมาณรายจ่ายแต่ละแผนงาน  ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖    ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ตามที่สำนักงบประมาณกำหนดหากเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐแห่งใดไม่มีความรู้ความเข้าใจแนวทางวิธีปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับวิธีการทางงบประมาณ รวมทั้งแนวทางวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุในช่วงที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗  ยังไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาอาจก่อให้ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในแนวทางปฏิบัติ หรือหลักเกณฑ์  และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน รวมทั้งวิธีปฏิบัติในการอนุมัติเงินจัดสรร การบริหารงบประมาณรายจ่าย